ข้อแตกต่างระหว่างปั๊มลูกเบี้ยว VS ปั๊มเพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
การใช้งานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง มีข้อมูลหลายด้านที่ผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องศึกษา ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องระดับความดันน้ำที่พุ่งออกมาเท่านั้น แต่ส่วนของปั๊มตัวเครื่องก็เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่จะต้องทำความรู้จักให้ถี่ถ้วนด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อจะได้เข้าใจกลไกการทำงานของปั๊มแต่ละแบบ ว่ามีการจ่ายน้ำหรือการทำงานของแรงดันอย่างไร จะได้รู้ทริคในการเลือกซื้อ ไปจนถึงแนวทางการใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพและถูกต้อง ซึ่งจะช่วยเซฟความปลอดภัย และรักษาอายุการใช้งานของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงไปในตัวด้วย
ประเภทของปั๊มในระบบเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
ประเภทปั๊มของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ก็คือ ปั๊มแบบลูกเบี้ยว และปั๊มแบบเพลาข้อเหวี่ยง ซึ่งปั๊มทั้ง 2 ประเภทนี้มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร และใช้ในกรณีที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ไปติดตามข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้กันเลย
1. ปั๊มแบบลูกเบี้ยว
ปั๊มประเภทนี้ เป็นปั๊มมาตรฐานของการใช้งานในกิจกรรมทั่วไป ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การล้างพื้นบ้าน, อาคาร, สถานที่ต่างๆ รวมไปถึงการล้างรถ, ล้างยานพาหนะในหลากหลายรูปแบบ
คุณสมบัติของปั๊มชนิดนี้จะมาพร้อมจานลูกเบี้ยวที่ลาดเอียงซึ่งคอยทำหน้าที่ดันลูกสูบให้ทำงาน โดยลูกสูบจะคอยอัดน้ำให้ออกไปจากปั๊มอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถใช้งานได้ดีเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกัน แต่ข้อเสียของปั๊มแบบลูกเบี้ยวคือ การเสียดสีระหว่างจานลูกเบี้ยวซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดความร้อนขึ้นในตัวปั๊ม และเกิดการระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก จึงอาจจะทำให้ถูกจำกัดระยะเวลาการในใช้งานที่ไม่ควรจะเกิน 1-2 ชั่วโมงต่อการทำความสะอาดในแต่ละครั้ง มิเช่นนั้นแล้ว อาจก่อให้เกิดความร้อนที่จะส่งผลเสียต่อเครื่องตามมาได้
2. ปั๊มแบบเพลาข้อเหวี่ยง
ปั๊มประเภทนี้แพร่หลายในการใช้งานระดับอุตสาหกรรมโรงงานต่างๆ หรือในธุรกิจประกอบการขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่บริเวณกว้างขวาง เช่น ไซต์งานก่อสร้าง, โรงพยาบาล, ร้านล้างรถยนต์ ซึ่งไม่เหมาะกับการนำมาใช้งานในบ้านเรือนที่อยู่อาศัยหรือในที่พักที่มีบริเวณจำกัด แต่เน้นการทำความสะอาดพื้นผิวที่มีคราบสกปรกต่างๆ ฝังแน่น ซึ่งยากต่อการเข้าถึง โดยตัวปั๊มจะมีเพลาข้อเหวี่ยงที่คอยดันให้ลูกสูบทำงาน ซึ่งจะทำงานได้ในระยะเวลานานกว่าปั๊มแบบลูกเบี้ยว เพราะภายในปั๊มจะไม่เกิดการเสียดสี ทำให้ไม่เกิดปัญหาเรื่องการระบายความร้อน หลายๆ กิจการหรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการทำความสะอาดหลายชั่วโมงติดต่อกัน จึงเหมาะสำหรับการใช้งานปั๊มแบบเพลาข้อเหวี่ยงมากกว่า
ตัวปั๊มที่เป็นส่วนประกอบอยู่ภายในเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงนั้น ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบการทำงานที่สำคัญ ช่วยให้แรงดันทำงานได้อย่างสมดุล ดังนั้น ผู้ใช้จึงต้องหมั่นคอยตรวจสอบอยู่เสมอ โดยตัวปั๊มควรอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานและไม่เกิดความชำรุดเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นปั๊มแบบไหนก็ตาม ควรเข้าใจระบบการทำงาน และข้อจำกัดของปั๊มแต่ละประเภทเป็นอย่างดี
วิธีสังเกตความผิดปกติของตัวปั๊มเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงอันเกิดมาจากตัวปั๊ม ควรหยุดใช้งาน จากนั้นส่งเครื่องเข้าเช็คที่ศูนย์ให้บริการต่อไป โดยอาการผิดปกติที่สามารถสังเกตได้ก็มีดังนี้
- เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจ่ายน้ำไม่ปกติ มีแรงดันที่ตกลง
- เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำไม่ออก
- ฝาครอบพลาสติกตัวกันสะเทือนของปั๊มแตกหักหรือมีรอยร้าว
- เกิดความติดขัดของการจ่ายน้ำ แรงดันไม่คงที่ เดี๋ยวแรง เดี๋ยวเบา
- อาการกระตุกขณะใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
- เสียงความผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน
- หลังจากใช้งานผ่านไปสักระยะ ตัวเครื่องเกิดความขัดข้อง
- ความร้อนที่ตัวเครื่องเพิ่มมากขึ้นเกินกว่าปกติ
- ความเสื่อมสภาพของตัวเครื่องที่สังเกตเห็นได้ชัดจากภายนอก
- ปั๊มอยู่ในสภาพที่เก่าและผ่านอายุการใช้งานมานานแล้ว (ส่วนมากอายุการใช้งานจะอยู่ที่ราวๆ 1 ปี หากเกินกว่านั้นอาจจะพบความชำรุด เสื่อมสภาพหรือเสียหาย)
ความสำคัญของการเช็คสภาพปั๊มน้ำ
การตรวจเช็คสภาพของตัวปั๊มถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เพราะปัจจัยสำคัญในการจ่ายน้ำของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงก็อยู่ที่ตัวปั๊มนั่นเอง ซึ่งหากพบข้อผิดพลาดประการใดก่อนการใช้งาน รวมไปถึงสิ่งผิดปกตินอกเหนือไปจากอาการข้างต้นนี้ ควรที่จะหยุดใช้งานทันที จากนั้นหาสาเหตุและวิธีซ่อมแซมอย่างถูกต้อง หากไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ควรนำเครื่องส่งให้ช่างผู้เชี่ยวชาญกับทางศูนย์บริการเพื่อทำการแก้ไขซ่อมแซมต่อไปจะดีที่สุด
เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง มีส่วนประกอบของอุปกรณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกันทั้งในประเภทของการใช้งาน และระดับความดัน การใช้งานในแต่ละครั้ง ดังนั้น จำเป็นจะต้องตรวจเช็คก่อนเปิดใช้งานเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่เกิดการชำรุดหรือแตกหัก
นอกจากนี้ยังจำเป็นจะต้องตรวจสอบกระแสจ่ายไฟฟ้าในบริเวณที่ใช้ อัตราการไหลของน้ำที่จะส่งผลสำคัญต่อการใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพ เพราะหากอย่างใดอย่างหนึ่งขาดไป ก็อาจจะทำให้การใช้งานเสียสมดุล และอาจจะทำให้เสียเวลาในการส่งซ่อมแซมมากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะได้อำนวยความสะดวกสบายในการทำความสะอาดตามที่ผู้ใช้คาดหวังก็อาจจะต้องมานั่งเสียเงินและเวลากับการซ่อมแซมมากขึ้น
อย่าลืมว่าสิ่งที่ควรพึงระวังเอาไว้มากที่สุดโดยห้ามมองข้ามอย่างเด็ดขาดเลยคือ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงแต่ละประเภท จะมีกำหนดระยะเวลาการใช้งานสูงสุดในแต่ละครั้งเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และความเสื่อมสภาพของตัวเครื่อง ผู้ใช้จำเป็นจะต้องใช้งานตามคู่มือที่ระบุเอาไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเกิดความเสียหายเร็ว และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้งานด้วยนั่นเอง
